ป้ายกำกับ:

ถอดรหัส ร้อนรักบนเตียง


วันนี้ Health 4 Women (H4W) ขอถอดรหัสรักอันเร่าร้อน  9   ประการที่แสดงถึงการบรรเลงเพลงรัก อย่างเร่าร้อน  และเร้าใจจนท่านชายติดใจมาฝากจ้า



 จับตัวคุณไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง แสดงว่า…เธอปรารถนาให้มีการสัมผัสแบบกายต่อกายแนบชิดกันมากกว่านี้

 เธอเหยียดขายกขึ้น แสดงว่า…เธอประสงค์ให้คุณเฟ้นฟอนโหนกเนื้อให้ถนัดถนี่

 เธอแอ่นตัว กระดกหลัง ยกหน้าท้องขึ้น แสดงว่า…เธออยากให้คุณสอดใส่แต่เพียงตื้นๆ ก่อน หรือให้ถอยออกมาเล็กน้อย ในกรณีที่คุณสอดเข้าไปสุดแล้ว และกำลังเพลิดเพลินอยู่

• แข็งขืนกล้ามเนื้อต้นขา แต่ร่างกายบิดเร่า แสดงว่า…เธอกำลังสุขสมและพึงพอใจกับลีลาที่เร่าร้อนของคุณในตอนนี้

• เธอผ่อนกาย ใช้เท้าเกาะเกี่ยว กดกายคุณให้แนบชิดเธอ แสดงว่า…เธออยากให้คุณสอดใส่เข้าไปให้ลึกล้ำขึ้น

• เธอยกปลายขาไขว้รัดแผ่นหลังคุณ แสดงว่า…เธออยากให้คุณสนองความปรารถนาให้เธออย่างหนักหน่วงขึ้น

• กายเธอบิดไปมา ส่งเสียงครางเร่าร้อน แสดงว่า…เธอปรารถนาให้คุณสอดใส่ทแยงไปซ้าย ทแยงไปขวา

 เธอยกตัวขึ้น อ้าแขนมาโอบรัดคุณแน่น แสดงว่า…เธอจวนเจียนจะบรรลุถึงจุดสุดยอด

• ร่างเธอเกร็งเขม็ง และฉับพลันก็อ่อนระทวย แสดงว่า…เธอก้าวถึงซึ่งประตูสวรรค์แล้ว

ที่มา : TeeNee.com

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

สูตรผอม สำหรับสาวๆ ที่ชอบกินแป้ง


วันนี้ Health 4 Women (H4W)  มาสูตรลดความอ้วนสำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบการรับประทานแป้งมาฝากกันค่ะ


สูตรที่ 1 ลดได้สัปดาห์ละครึ่งกิโลกรัม 

  • มื้อเช้า ข้าวทัพพีครึ่ง กับข้าว 2 อย่าง แต่ต้องไม่ใช่แกงกะทิหรือของทอดน้ำมันเยิ้ม
  • มื้อกลางวัน ข้าว 1 ทัพพี ผัดผักใส่เนื้อสัตว์(ไม่ติดมัน) ไข่ต้ม 1 ฟอง
  • มื้อเย็น ข้าวครึ่งทัพพี แกงป่า, แกงส้ม, เกาเหลา หรือแกงจืด 1 ถ้วย

สูตรที่ 2 ลดได้สัปดาห์ละเกือบ 1 กิโลกรัม 

  • มื้อเช้า แซนวิชทูน่า 1 คู่ กับแอปเปิ้ล 1 ผล หรือโจ๊ก 1 ชาม กับกล้วย 1 ผล
  • มื้อกลางวัน ก๋วยเตี๋ยวน้ำ 1 ชาม มะละกอ 1 ถุง
  • มื้อเย็น เกาเหลา 1 ชาม หรือขนมจีนแกงป่า 1 จาน

สูตรที่ 3 ลดได้สัปดาห์ละ 1 กิโลกรัม 

  • มื้อเช้า โจ๊กไม่ใส่ไข่ 1 ชาม หรือโยเกิร์ตกับแซนด์วิชทูน่า 1 ชิ้น
  • มื้อกลางวัน เกาเหลา 1 ชาม หรือส้มตำ (ไม่ใส่ถั่ว) กับข้าวเหนียว
  • มื้อเย็น ส้มตำ หรือสลัดผักน้ำใส 1 จาน กับแอปเปิ้ล 1 ลูก

เลือกสูตรที่คิดว่าทำได้ง่ายที่สุดแล้วลองทำดู ในระหว่างการลดน้ำหนัก ต้องเดินตามกฏเหล็กเหล่านี้ 

  • ดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตร เพื่อให้ร่างกายสดชื่นกระฉับกระเฉง
  • ถ้าบังเอิญทานมื้อเย็นดึกกว่า 1 ทุ่ม ต้องงดทานแป้ง ให้ทานได้แค่โยเกิร์ตไขมันต่ำ 1 ถ้วย กับแอปเปิ้ล 1 ผลเท่านั้น
  • งดดื่มน้ำหวาน กาแฟเย็น นมเย็น น้ำผลไม้ปั่น และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ที่มา : Teenee.com

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

วิธีแก้อกหัก แบบขำๆ

     

   1. นั่งฟังเพื่อนปรับทุกข์ ไม่ว่าคุณเธอจะพล่ามนานกี่ชั่วโมง หรือพูดเรื่องเก่าวนไปวนมากี่รอบก็อย่าไปขัดคอ คิดเสียว่าคนอกหักกับคนบ้าก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่
    2. ช่วยเพื่อนคิดวิธีแก้แค้นหนุ่มคนนั้นแบบเจ็บๆ คันๆ เช่น ตัดต่อรูปเขาเอาหัวไปใส่กับฮิปโปหรือช่วยตะโกนล้อชื่อป่าป๊าหม่าม้าอีหมอนั่นบนชายหาด ... จะให้ดี ล้อไปถึงก๋งไปเลย 
    3. คอยห้าม ถ้าเพื่อนสติแตกถึงขนาดจะลงมือแก้แค้นแบบรุนแรงเกินไป อย่าลืมว่าอกหักพรุ่งนี้ก็หาย แต่ถ้าติดคุก กว่าจะได้ออกมาต้องใช้เวลาเป็นเชียวนะแม่คุณ
    4. ดูแลให้เพื่อนกินข้าวอย่างน้อยวันละมื้อ เพราะสาวๆ ที่อกหักมักกินแต่น้ำตาต่างข้าวจนสุขภาพพลอยเฉาไปด้วย
    5. หากิจกรรมสนุกๆ ให้เพื่อนทำแก้เซ็งจะได้ไม่จมอยู่กับวงจรความคิดแบบเดิมๆ
    6. อย่าปล่อยให้เพื่อนทำอะไรที่เป็นการทำร้ายตัวเอง หรือทำเรื่องน่าอายจนต้องมานั่งเสียใจซ้ำสองว่าแล้วพรุ่งนี้ฉันจะโผล่ออกไปสู้หน้าชาวบ้านเขาได้อย่างไร
    7. ชวนกันดูหนังตลกหรือหนังบู๊ชนิดไม่มีเลิฟซีนมาเจือปน
    8. พาเพื่อนเข้าวัดทำบุญ ปล่อยนกปล่อยปลาให้จิตใจสบาย
    9. ช่วยกันทำลิสต์รายการความชั่วของหนุ่มคนนั้น และเหตุผลว่าเพื่อนคุณโชคดีแค่ไหนที่เลิกกับพี่แกได้เสียที
   10. ช้อปปิ้ง.. ให้มันรู้กันไปว่าเพื่อนคุณจะมัวสะอื้นอยู่ได้ทั้งๆ ที่มีเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าสวยสลบชวนน้ำลายไหลรอให้ซื้ออยู่ตรงหน้า

    11. สมัครเรียนโดดร่ม โยคะร้อน เต้นแจ๊ส อะไรก็ได้ที่เพื่อนคุณไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันจะสนุกได้ขนาดนี้
    12. นัดบอดให้เพื่อน เผื่อจะเจอคนใหม่ที่ใสกิ๊งกว่า
    13. อกหักเรื่องเล็ก อกเล็กเรื่องใหญ่ ชวนเพื่อนออกกำลังกายเพิ่มขนาดหน้าอกทุกเช้ากันดีกว่า
    14. เอาน้องหมาของคุณมาฝากเพื่อเลี้ยงสักสองอาทิตย์ ความน่ารักของสัตว์ชนะโรคอกหักมาเยอะแล้ว แต่ไม่ควรซื้อสัตว์มาให้เพื่อนคุณเลี้ยง เพราะสถิติเค้าบอกว่าคนที่เลี้ยงสัตว์ด้วยเหตุผลนี้มักจะทอดทิ้งมัน หลังจากนี้หายเศร้าแล้ว .. ว้า.
    15. ชวนเพื่อนสมัครเข้าชมรมที่ได้บำเพ็ญประโยชน์แก่สังคม เช่น สมาคมช่วยเหลือเด็กเร่ร่อน เผื่อเพื่อนจะบังเกิดแสงสว่างทางปัญญาว่าเรื่องของเรามันเล็กนิดเดียว เมื่อเทียบกับโศกนาฏกรรมในชีวิตของคนอื่น
    16. แนะนำเพื่อนผู้ชายนิสัยน่ารักให้รู้จักกับเพื่อน .. ไม่แน่นะ นิยายรักเรื่องใหม่อาจจะเกิดขึ้นก็ได้
    17. คนอกหักมักอยากโทร.ไปหาแฟนเก่าเพื่อตัดพ้อหรือง้องอน จากนั้นก็ถูกเขาซ้ำเติมให้เจ็บยิ่งกว่าเดิม จึงเป็นหน้าที่ของคุณที่คอยกีดกันเพื่อนให้อยู่ห่างจากโทรศัพท์เข้าไว้
    18. มนุษย์อีกคนหนึ่งที่คุณควรดูแลไม่ให้เพื่อนไปยุ่งเกี่ยวด้วยคือ มือที่สามที่มาฉกแฟนเพื่อนคุณไป อย่าปล่อยให้เสือสองตัวได้พบหรือคุยกันเป็นอันขาด อ้อ ! รวมทั้งทางไฮไฟว์และเมสเสจโทรศัพท์ด้วยนะ
    19. อย่าปล่อยให้เพื่อนใช้การกินเป็นการแก้ปัญหา เพราะน้ำตาลมีผลต่ออารมณ์ของคนเรา ถ้าได้รับน้ำตาลมากเกินไป เพื่อนคุณจะยิ่งซึม เศร้า เหงา .. และเพี้ยน !
    20. ช่วยกันเก็บข้าวของของผู้ชายคนนั้นทิ้งให้หมด อย่าหลงเหลืออนุสรณ์แห่งอดีตเอาไว้เป็นมารความสุขของเพื่อนคุณ
    21. รับโทรศัพท์แทนเพื่อน ใครจะรู้ว่าแฟนเก่าหรือยายกิ๊กของเขาอาจจะโทร.มาเยาะเย้ยเพื่อนคุณก็ได้ ชั่วโมงนี้คุณจึงควรจะทำหน้าที่เป็นโอเปอร์เรเตอร์สกรีนทุกสายก่อนถึงตัวเพื่อน
    22. งดเหล้าเข้าพรรษา นี่คือภาษิตที่คุณกับเพื่อนควรท่องเอาไว้ ถึงตอนนี้จะออกพรรษาแล้วก็ถือซะว่างดเผื่อเข้าพรรษาปีหน้าก็แล้วกัน

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

5 จุดสำคัญ ที่ผู้หญิงอยากให้สัมผัส

เมื่อพูดถึงความต้องการของผู้หญิงแล้ว สิ่งสำคัญที่ผู้หญิงอย่างเราๆ ปรารถนาจากผู้ชาย นอกเหนือจากความรัก การดูแลเอาใจใส่แล้ว "สัมผัสรัก" อันอบอุ่นของคุณก็เป็นสิ่งที่ต้องการ   วันนี้ H4W (Health 4 women)




                  ทั้งนี้ เราไม่ได้หมายความถึงเรื่องเซ็กซ์เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ละเอียดอ่อนกว่านั้นที่คุณอาจเผลอมองข้ามไป วันนี้เลยจะมาเผยจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ผู้หญิงอยากให้เราสัมผัสมาบอกให้ทราบ

        1. เท้า หลายคนอาจละเลยความสำคัญในเรื่องของเท้ากันไปพอสมควร ทั้งที่จริงแล้วมันเป็นอวัยวะที่ใช้งานมากที่สุดส่วนหนึ่งเลยก็ว่าได้ หากคุณต้องการให้แฟนสาวของคุณรู้สึกผ่อนคลายจากอาการเมื่อยล้าตลอดทั้งวัน ก็ช่วยนวดเท้าให้เธอสักหน่อยสิ คุณอาจนำน้ำมันนวดหรือโลชั่นมาช่วยบำรุงด้วยก็ได้ โดยเน้นบริเวณนิ้วเท้า ข้อเท้า และข้างเท้าให้มากเป็นพิเศษ รับรองเธอจะต้องฟินแน่นอน

       2. ผม ผู้หญิงชอบให้ผู้ชายสัมผัสผมหรือศีรษะ เพราะว่ามันทำให้พวกเธอรู้สึกว่าคุณทะนุถนอม และแสดงความอ่อนโยนต่อเธอน่ะสิ ขนาดผู้หญิงบางคนยังชอบจับผมตัวเองเล่นเลย แล้วทำไมถึงไม่อยากให้คนที่เธอรักสัมผัสล่ะ ไม่เชื่อก็ลองลูบไล้เส้นผมอันนุ่มสลวยของแฟนคุณดูสิe
 Te
       3. ต้นคอ อวัยวะส่วนนี้นับเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงอ่อนระทวยได้เหมือนกัน เนื่องจากเป็นส่วนที่ไวต่อความรู้สึก ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายโดยการนวดเริ่มตั้งแต่บริเวณขมับ ไล่มาจนถึงต้นคออย่างนุ่มนวล และหากบังเอิ๊ญ บังเอิญ อยู่กันตามลำพังเพียงสองคนที่บ้าน คุณลองจูบบริเวณซอกคอของเธอเบา ๆ สักทีสองที ถ้าไม่เคลิ้มก็ให้มันรู้ไป!

       4. ติ่งหู คือส่วนที่ไวต่อความรู้สึกจุดหนึ่งเลยทีเดียว ไม่ว่าคุณจะสัมผัสด้วยนิ้วมือหรืออยากให้สยิวขึ้นนิดนึงก็ลองจูบลงเบา ๆ ที่ติ่งหู จากนั้นก็ค่อยพรมจูบไปรอบ ๆ ใบหูด้วยความอ่อนโยน เชื่อเถอะ...ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบให้ผู้ชายสัมผัสบริเวณนี้จริง ๆ นะ หากไม่เชื่อก็ลองพิสูจน์ด้วยตัวเองสิ

       5. ต้นขา สำหรับข้อนี้อาจจะดูหวาดเสียวนิดหน่อย และคงเหมาะกับคู่สามีภรรยาที่ชอบกระเซ้าเย้าแหย่กันมากกว่า ทว่ามันเป็นจุดที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกสยิวกิ้วที่สุดเลยนะ เพียงแค่คุณลองเอามือมาลูบไล้ขาอ่อนของเธอ แล้วค่อย ๆ บรรจงนวดเพื่อให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย แต่จากนั้นจะอะไรยังไงต่อก็แล้วแต่คุณกับเธอแล้วกันน้าาา

                  คราวนี้หนุ่ม ๆ ก็ได้ทราบกันไปแล้วว่ามีจุดไหนบ้างที่ผู้หญิงเขาอยากให้สัมผัส ต่อไปจะเอาอกเอาใจหรือคลอเคลียเธอยังไงก็คงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปแล้ว อย่างไรก็ตาม จะแตะจะจับอะไรก็อย่าลืมนึกถึงความเหมาะสม และรู้จักให้เกียรติผู้หญิงกันด้วยนะ ในฐานะที่เป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง


ที่มา : Teenee.com

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

เบ่งบาน รับลมหนาว กับ "ทรงผมรูปดอกไม้"

วันนี้ Health 4 women มีทรงผมงามๆ ทำง่ายๆ รับลมหนาว มาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ


ขั้นตอนที่ 1 มัดผมเป็นหางม้า 2 ช่อ
โดยให้ตำแหน่งเอียงเล็กน้อยในด้านที่คุณสาวๆ ถนัดค่ะ

ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนของการจัดผมให้เป็นช่อดอกไม้
โดยการมัดให้เกิดวงเป็นลักษณะของกลับดอกไม้
(ดูภาพประกอบตามได้เลยค่ะ)

ขั้นตอนที่ 3 หลังจากที่เราทำเสร็จเรียบร้อย
ก็จะได้ดอกไม้ 2 ดอกอยู่บนศรีษะเราแล้วนะคะ
ตกแต่งให้สวยหวานด้วยดอกไม้เล็กๆ สักนิดดูน่ารักเชียวค่ะ

ที่มา : TeeNee.com

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

เป็นขนคุดทำไงดี?



สาเหตุของการเกิดขนคุด

เวลาที่ขนเริ่มงอกขึ้นมานั้นมันอาจม้วนกลับลงไปงอกอยู่ใต้ผิวได้ (ซึ่งเป็นกันได้ทุกคน) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผิวในบริเวณรอยพับ (อย่างเช่น บริเวณง่ามขา) และถ้าเกิดมีการสะสมตัวของเชื้อแบคทีเรียก็จะทำให้เกิดการอักเสบขึ้นมาได้

วิธีป้องกันการเกิดขนคุด

ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกหรือกรดไกลโคลิกหลังจากแว็กซ์หรือโกนขน พร้อมทั้งหมั่นทำความสะอาดอย่าให้เชื้อแบคทีเรียสะสมอยู่ในบริเวณนั้นได้

วิธีเยียวยาขนคุด

คุณต้องหาทางให้เส้นขนสามารถงอกผ่านผิวหนังขึ้นมาให้ได้ แต่อย่าใช้ใยบวบหรือสครับที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะนั่นคือแหล่งแพร่พันธุ์ของเชื้อแบคทีเรีย หันมาใช้เคลนเซอร์ที่มีผงขัดเม็ดเล็กๆ ผสมอยู่ด้วยดีกว่า แต่ถ้าปัญหาขนคุดของคุณไม่ทุเลาหรือมีอาการหนักขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์ผิวหนัง

ที่มา : Teenee.com

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

4 สูตรหน้าใส ง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง


วันนี้ H4W (Health 4 Women) มีสูตรหน้าใสง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้มาฝากกันถึง 4 สูตรเลยจร้า



1. สูตรเพิ่มความสดชื่นเปล่งปลั่งให้ผิวหน้า
ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นจนสะอาด แล้วนำแอปเปิ้ลไม่ปลอกเปลือกสัก ครึ่งผล ปั่นให้ละเอียด พอกหน้าเว้นเปลือกตา ทิ้งไว้ประมาณ 25 นาที แล้วล้างออก
2. สูตรลดริ้วรอย ทำให้หน้านวลใส
นำแอปเปิ้ลครึ่งผลมาปั่น พอละเอียดได้ที่ก็คั้นมะนาวเอาแต่น้ำสัก 1 ช้อนชาใส่ลงไป คนให้เข้ากัน แล้วพอกชโลมให้ทั่ว เว้นบริเวณรอบดวงตาไว้ ทิ้งไว้ 10 นาที ล้างออก

3. สูตรหน้าเด้ง ไม่หยาบกร้าน

เตรียมโยเกิร์ต 3 ช้อนโต๊ะ และมะเขือเทศลูกเล็กๆ สัก 3 ลูก ปั่นโยเกิร์ตกับมะเขือเทศให้ละเอียด แล้วนำพอกหน้าให้ทั่ว โดยเว้นรอบดวงตา ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก
4. สูตรขัดหน้าขาว และลดริ้วรอยหมองคล้ำ
ผสมโยเกิร์ต 1 ถ้วย กับเกลือป่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ ให้เข้ากัน ชโลมให้ทั่วใบหน้า แล้วขัดๆ ถูๆ ให้ทั่ว ขัด 5 นาที ทิ้งไว้อีก 5 นาที แล้วล้างออก ทำเดือนละครั้งกำลังดี 

ที่มา : teenee.com

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

ทำอย่างไร ไม่ให้อายแชโดว์ ตกร่องเปลือกตา

สาว ๆ หลายคนโดยเฉพาะสาวผิวมันคงจะประสบปัญหาอายแชโดว์ตกร่องรอยพับเปลือกตากันมาบ้างไม่มากก็น้อย




                  ทั้ง ๆ ที่ตอนเช้าอุตส่าห์ตั้งใจแต่งหน้าแต่งตามาอย่างดี แต่พอคล้อยไปไม่กี่ชั่วโมงเจ้าอายแชโดว์ก็กลับไปเกาะอยู่ในร่องรอยพับเปลือกตามองเห็นเป็นเส้น ๆ ไม่น่าดู จึงมีวิธีป้องกันปัญหาที่ว่านี้มาฝากกันค่ะ
        1. ใช้อายไพรม์เมอร์ เริ่มต้นจากการใช้อายไพร์เมอร์เตรียมผิวที่เปลือกตาก่อนการแต่งตาทุกครั้ง มันจะทำให้เมคอัพที่จะแต่งลงไปยังดวงตาติดทนนานมากขึ้น และไม่เลอะเลือนไปจากตำแหน่งที่ควรอยู่

        2. ไม่ทาอายครีมก่อนแต่งหน้า สิ่งที่ต้องทำก่อนการแต่งหน้าคือการบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้น เครื่องสำอางจะได้ติดผิวดียิ่งขึ้น แต่ทว่าไม่ใช่สำหรับดวงตา หลีกเลี่ยงการทาอายครีมที่เปลือกตาและบริเวณรอบ ๆ ดวงตาก่อนการแต่งหน้า เพราะอายครีมจะทำให้ผิวเปลือกตามันเกินไป ทาอายแชโดว์ได้ไม่นานเท่าไหร่ก็จะเลือนและไปตกอยู่ตามรอยพับเปลือกตาเสียหมด

        3. เลือกใช้อายแชโดว์ชนิดฝุ่น อายแชโดว์แบบครีมมักเลือนและลงไปค้างอยู่ตามรอยพับของชั้นเปลือกตาได้ง่ายกว่าอายแชโดว์แบบฝุ่น ฉะนั้นหันมาใช้อายแชโดว์เนื้อฝุ่น และทาด้วยแปรงแต่งทาอายแชโดว์แบบหัวตัดซึ่งทำให้อายแชโดว์เซ็ตตัวได้ง่ายกันดีกว่า

        4. แป้งโปร่งแสง ตัวช่วยใกล้มือ หลังแต่งตาเสร็จ ให้ใช้แปรงแตะแป้งโปร่งแสงปัดทับทั่วทั้งเปลือกตา จะช่วยชะลอการเกิดความมันและการลงไปจับอยู่ตามรอยพับเปลือกตาได้ รวมทั้งการปัดบาง ๆ ทั่วทั้งหน้าก็ทำให้เครื่องสำอางติดทนขึ้นด้วยค่ะ

       คุณผู้หญิงคนไหนที่มีปัญหาเรื่องอายแชโดว์จับตัวตามรอยพับเปลือกตา ลองนำไปใช้กันดูนะคะ สีสวย ๆ บนเปลือกตาจะได้สวยทนอยู่นานไม่ต้องกังวลอีกต่อไป


ที่มา : TeeNee.com

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

3 เคล็ดลับ...วิธีทำให้ปากสวย



1. เขียนขอบปาก
ลิปสติกสีสดๆ มักจะเกิดปัญหาไหลเยิ้มได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงอากาศร้อนๆ ฉะนั้นจึงควรใช้ดินสอเขียนขอบปากให้ดีซะก่อน แล้วค่อยเติมสีลิปสติกลงไป เพื่อช่วยสกัดกั้นไม่ให้สีลิปสติกไหลเยิ้มออกมานอกขอบปาก แถมการเขียนปากก่อนยังช่วยให้รูปปากของคุณดูสวยคมชัดขึ้นด้วย

2. เว้นตรงกลาง

แทนที่จะทาลิปสติกตามรอยหยักของริมฝีปากบนเป็นรูปตัว M ตามปกติ ก็เปลี่ยนมาเป็นรูปตัว V แทน โดยลากลิปสติกออกจากรอยหยักแต่ละข้างออกไปในแนวทะแยง แต่ระวังหน่อยนะ เพราะลิปสติกสีสด ๆ มักจะดูเลอะเทอะได้ง่าย

3. ห่อริมฝีปาก
ลิปสติกสีสดๆ มักจะทาในบริเวณมุมปากได้ยาก แต่ถ้าคุณห่อปากเป็นรูปตัว O ตอนทา ก็จะช่วยให้คุณล้วงลิปสติกเข้าไปในบริเวณนั้นได้ง่ายขึ้น แถมยังช่วยให้ลิปสติกสีแจ่ม ๆ ดูเนียนเรียบเสมอกันด้วย

ที่มา : TeeNee.com

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

ทำสปาเท้า ใช้เองแบบ'ง่ายมากกก




ถ้าคุณอยากมีผิวเท้าที่เนียนนุ่มละก็ หาเวลาแช่เท้าในน้ำสูตรของเรานี้ซักสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
ส่วนผสม: น้ำร้อน 10 ถ้วย น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล 1 ถ้วย เกลือ 1/2 ถ้วย และน้ำมะนาวคั้นสด 2 ลูก

วิธีทำ: เทส่วนผสมทั้งหมดลงในอ่างขนาดที่จะใช้แช่เท้าได้พอดี คนส่วนผสมให้เข้ากันแล้วแช่เท้าเป็นเวลา 15 นาที ใช้ผ้าขนหนูซับให้แห้ง จากนั้น ใช้หินขัดเท้าขัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกไป การแช่เท้าสูตรนี้ควรทำก่อนอาบน้ำ เพราะอาจจะมีกลิ่นน้ำส้มสายชูติดเท้าได้

ที่มา : TeeNee.com

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

วิธีกระชับ รูขุมขนง่ายๆ

วันนี้เรามีเกร็ดความรู้ความสวยความงามเกี่ยวกับวิธีการกระชับรูขุมขนแบบง่าย ๆ มาฝากกัน.... 



รูปสวย น่ารัก glitter emoticon www.yenta4.com  มะเขือเทศ : จะมีกรดชนิดหนึ่งที่ช่วยทำความสะอาดรูขุมขน ช่วยลดการเกิดสิวบนใบหน้าด้วย วิธี คือ ต้องปอกเปลือกออกก่อน แล้วฝานเป็นแผ่น ๆ นำเมล็ดออก จากนั้นนำมาปั่นให้ละเอียดหรืออาจจะขยำจนเละและไม่จับเป็นก้อน แล้วนำมาทาบนหัวสิว ระวังอย่าให้เข้าตา และทิ้งไว้ 10 ถึง 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น แต่ถ้าใครลองแล้วมีอาการแสบ ๆ ละก็แสดงว่าเกิดอาการแพ้ ให้รีบล้างออกทันที 

รูปสวย น่ารัก glitter emoticon www.yenta4.com ไข่ไก่ : มีสรรพคุณในการช่วยกระชับผิว กระชับรูขุมขน เหมือนกับพวกโทนนิ่งโลชั่น วิธี คือ ให้ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดก่อน หรืออาจจะใช้น้ำนมก็ได้ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผิวสดชื่น จากนั้นตอกไข่ใส่ชาม แยกไข่ขาวออกจากไข่แดง ใช้เฉพาะไข่ขาวทาบนใบหน้า ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น จากนั้นก็ทามอยส์เจอไรเซอร์ปิดท้าย 

ที่มา :TeeNee.com

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

ทานไขมันลดพุงกันเถอะ




         ถ้าไขมันเป็นตัวการหนึ่งที่ก่อให้เกิดห่วงยางน้อยๆ บนตัวคุณ แล้วใครล่ะจะกล้าทานเข้าไป แต่เมื่อไม่นานมานี้มีการวิจัยจากประเทศสเปนพบว่า สารอาหารจำพวกหนึ่งสามารถขจัดไขมันหน้าท้องที่เรามองเห็นด้วยตาเปล่า และยังขจัดไขมันอันตรายที่เกาะที่ลำไส้ของคุณได้ด้วย

          ซึ่งคุณคงต้องแปลกใจเมื่อรู้ว่าเจ้าสารอาหารที่ว่านี้ก็คือ “ไขมัน” นั่นเอง แต่ต้องเป็นไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดี่ยว (Monounsaturoted Fat) ฉะนั้น เลิกพะวงกับการทานอาหารไขมันต่ำ หันมาใส่ใจเลือกชนิดของไขมันที่ดีแทนจะดีกว่า ซึ่งเรามักจะพบไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดี่ยวในอาหาร อย่างเช่น ถั่วลิสง แอปเปิ้ล อะโวคาโด กล้วยหอม ถั่วพิสตาชิโอ น้ำมันมะกอก ข้าวโอ๊ต เรียกว่าถั่วทุกชนิดนั่นแหละ และนี่คือคำแนะนำพื้นฐานในการเลือกรับประทานไขมันที่ดีสำหรับทุกคน

          1. ทานอาหารไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดี่ยวเป็นประจำ เช่น น้ำมันมะกอก อะโวคาโด ข้าวโอ๊ต ถั่วต่างๆ งา และน้ำมันงา

          2. เลือกทานผลิตภัณฑ์ประเภทธัญพืช

          3. ทานผลไม้และผักสดมากๆ เพราะให้พลังงานน้อย แต่มากไปด้วยสารอาหาร

          4. ทานเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เช่น ปลา เพื่อเพิ่มโปรตีนและทำให้คุณอิ่มท้องได้นาน

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

อาหารรสเผ็ดจัด" ทำต้นขาใหญ่ได้จริงหรือ?



มีหลายคนสงสัยว่า "อาหารรสเผ็ดจัด" ทำต้นขาใหญ่ได้จริงหรือ? และวันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันจร้า





"อาหารรสเผ็ดจัด" ทำต้นขาใหญ่ได้จริงหรือ?

คุณผู้หญิงรู้หรือไม่ว่า ยำ ส้มตำ และเมนูอาหารรสเผ็ดจัดจ้านจานอื่น ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของคุณผู้หญิงทั้งหลายนั้นล้วนเป็นเมนูที่จะทำให้คุณผู้หญิงต้องกลับมานั่งกลุ้มใจกับปัญหาขาใหญ่อย่างไม่ทันตั้งตัว

เนื่องจากอาหารรสเผ็ดมีทั้งรสเผ็ด เปรี้ยว หวานซึ่งช่วยกันกลบรสเค็มไว้ ทำให้ความเค็มที่มาจากโซเดียมซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำไว้ในเนื้อเยื่อไหลลงสู่ที่ต่ำ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สาวๆ ที่ชอบกินอาหารรสเผ็ดต้องนั่งกลุ้มกุมขมับกับปัญหาขาใหญ่อย่างไม่รู้สาเหตุ

ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาก็คือ ไม่ควรกินอาหารรสเค็มและเผ็ดบ่อยจนเกินไป แต่ควรเลือกกินอาหารที่มีผักและผลไม้ทั้งยังต้องหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อรูปร่างที่สวยงามและสุขภาพที่แข็งแรง นอกจากนี้อาจแก้ปัญหาขาใหญ่ได้ด้วยการนวดกดจุด โดยการนวดเอาน้ำที่บวมคั่งในกล้ามเนื้อขาออกไปทางระบบน้ำเหลืองซึ่งจะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ แล้วขาของคุณผู้หญิงก็จะค่อยๆ เล็กลง กลับมาเรียวสวยเหมือนเดิม

ที่มา : womanplus

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

กีฬาว่ายน้ำช่วยเผาผลาญแคลอรี่มากกว่าที่คุณคิด!!



กีฬาว่ายน้ำช่วยเผาผลาญแคลอรี่มากกว่าที่คุณคิด!!  วันนี้เรานำสาระดีๆ มาฝากคุณผู้หญิงทั้งหลายที่กำลังมีข้อสงสัยกันว่า กีฬาว่ายนั้นช่วยลดความอ้วน ลดน้ำหนัก เผาผลาญแคลอรี่ได้มากจริงๆ เป็นคำถามที่คุณผู้หญิงหลายๆ สนใจและอยากรู้คำตอบ


กีฬาว่ายน้ำช่วยเผาผลาญแคลอรี่มากกว่าที่คุณคิด


กีฬาว่ายน้ำช่วยเผาผลาญแคลอรี่

การออกกำลังกายด้วยชนิดกีฬาต่างๆ ถือว่าเป็นเรื่องดีทั้งนั้น แต่ถ้ามีโอกาสเลือกชนิดกีฬาที่จะให้ผลลัพธ์ในการเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าและเร็วกว่าล่ะก็ขอแนะนำให้ว่ายน้ำค่ะ 

นั่นก็เพราะมีการวิจัยแล้วพบว่า ถ้าคุณต้องการเผาผลาญพลังงาน 295 แคลอรีล่ะก็ คุณต้องไปเต้นแอโรบิกเป็นเวลา 46 นาที แต่ถ้าเลือกออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ คุณใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ก็จะสามารถเผาผลาญพลังงานได้เท่ากัน ที่สำคัญ น้ำจะช่วยพยุงน้ำหนักของคุณไม่ให้เกิดปัญหาเจ็บเข่า หรือข้อต่อต่างๆ อีกต่างหาก


ที่มา : ไทยโพสต์

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

น่องโตทําไงดี? "วิธีการลดน่อง" อยู่นี้แล้ว!


สาวเอเชียอย่างสาวไทยมักประสบปัญหาน่องโตและทู่ ซึ่งน่องโตอาจเกิดจากไขมันหรือกล้ามเนื้อก็ได้ กรณีที่เกิดจากกล้ามเนื้อส่วนใหญ่จะพบว่าส่วนบนของน่องใหญ่หรือบางคนอาจเกิดจากกล้ามเนื้อและไขมันร่วมด้วย ส่วนน่องโตที่เกิดจากไขมัน จะสังเกตุได้ว่า น่องทู่และด้านล่างเหนือข้อเท้าดูอวบอ้วน

วันนี้เรามีวิธีลดความอ้วนเฉพาะส่วนมาฝากกันค่ะ


น่องโตทําไงดี วิธีการลดน่อง


เหลาน่อง มีหลายวิธีในการปราบน่องให้เรียวขึ้น

- ฉีดสาร Botulinum toxin
โดยการฉีดเข้าไปที่กล้ามเนื้อน่องซึ่งมีสองมัดใหญ่ๆ ข้อดีคือ ไม่มีแผลผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล ไม่ต้องเสี่ยงกับแผลเป็น แต่ต้องฉีดใหม่ทุก 4-8 เดือน

- ตัดกล้ามเนื้อ 
เป็นวิธีดั้งเดิมที่สามารถลดน่องได้ถาวร วิธีนี้ต้องเปิดแผลเพื่อเลาะใต้ผิวหนังให้เป็นโพรงแล้วตัดกล้ามเนื้อออก แต่มีความเสี่ยงในการทำให้น่องสองข้างไม่เท่ากัน บุ๋มเกินไป มีการติดเชื้อ เลือดออกและเลือดคั่งมาก และยังเสี่ยงกับแผลเป็นและแผลคีลอยด์อีกด้วย

- ตัดเส้นประสาท
เป็นวิธีที่ต้องเปิดแผลตรงข้อพับเล็กๆ แล้วตัดเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหนึ่งมัด ทำให้กล้ามเนื้อทั้งหนึ่งมัดฝ่อลง ข้อเสียคือ มีแผลเป็น การทำผ่าตัดค่อนข้างยาก

- ดูดไขมัน เช่น Vaser Liposelection 
ซึ่งมีข้อดีคือ เสียเลือดน้อย เนื้อเยื่อบอบช้ำไม่มาก ไม่เจ็บปวด เนื้อเยื่อข้างเคียงบาดเจ็บน้อย ขจัดไขมันส่วนเกินได้ในครั้งเดียว ข้อเสียคือ ลดได้เฉพาะส่วนที่เป็นไขมันเท่านั้น หรืออีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจคือ Radiofrequency Energy (คลื่นพลังงานวิทยุ) ที่สามารถนำมาใช้กับกล้ามเนื้อน่องเพื่อลดขนาดหรือปรับเปลี่ยนรูปทรงของน่อง ไม่มีแผลผ่าตัดและไม่มีแผลเป็นทำครั้งเดียวอยู่ได้นานโดยขึ้นอยู่กับขนาดกล้ามเนื้อของผู้ป่วย

ที่มา : นพ.อนันต์ สุวรรณเทวะคุปต์ ศัลยแพทย์ตกแต่ง จากเวอร์เทค คลินิกทันตกรรม ผิวพรรณศัลยกรรมความงาม


ท่าบริหารลดน่อง

ถ้าน่องใหญ่จากไขมัน การออกกำลังกายอาจช่วยให้น่องเรียวลง เช่น ว่ายน้ำ จ้อกกิ้ง พิลาติส โยคะ คือควรออกกำลังที่มีการเกร็งและยืดเหยียดด้วย ในช่วงแรกที่ออกกำลังอาจดูว่าน่องใหญ่ขึ้นเนื่องจากกล้ามเนื้อขยายขนาดแต่เมื่อออกกำลังไปเรื่อยๆ จะทำให้น่องลดลงและกระชับขึ้น ที่สำคัญคือ ต้องยืดเหยียดกล้ามเนื้อน่องควบคู่ไปด้วยจึงจะได้ผล

ที่มา : นพ.กรกฎ พานิช ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์และเวชศาสตร์การกีฬา วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

กระชับสัดส่วน เพื่อขาเรียวสวย

   

แฟชั่นกระแสเกาหลีมาแรง กางเกงรัดรูป กระโปรงสั้นๆน่ารักๆ กางเกงสั้นเอวสูง น่าใส่ทั้งนั้นแต่ถ้าเรามี ต้นขาที่ ใหญ่โต คงไม่มั่นใจที่จะใส่ใช่ไหมค่ะ ไม่ต้องกังวลค่ะ วันนี้เรามี ท่าบริหารลดต้นขามาฝากค่ะ รับรองเรียวขาจะเล็กกระชับ ให้สาวๆอวดเรียวขาสวยได้แน่นอนจ้า แต่ ก่อนที่จะเข้าสู่ท่าการบริหารต้นขา ควรการ Warm up ร่าง กายทุกครั้ง เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บ บางท่าของการบริหารต้นขาแต่ละส่วนมีให้เลือกทำ คุณสามารถเลือกท่าที่คุณถนัด หรือจะบริหารครบทุกท่าเลย ก็ได้นะจ๊ะ งั้นมาลองทำพร้อมๆกันนะ

บริหารต้นขาด้านหน้า

1. นอนหงายราบลงบนพื้น สอดมือทั้งสองข้างรองไว้ที่ก้น งอเข่าซ้ายเข้าหาอก แล้วเหยียดขาขวาตรงขึ้นข้างบนอย่าง ช้าๆ

2. เมื่อเหยียดขาขวาได้สุดแล้ว ให้นิ่ง และหายใจตามปกติ

3. ให้รู้สึกได้ถึงความตึงที่ต้นขาด้านหน้า และด้านหลังของลำขาทั้งหมด

4. กลับสู่ท่าเริ่มต้นใหม่ โดยให้เข่าขวางอเข้าหาหน้าอก แล้วเหยียดขาซ้ายตรงขึ้นข้างบนบ้าง ทำสลับกันเช่นนี้ ให้ได้ข้างละ 10-15 ครั้ง (1 เซ็ท)

5. ควรปฏิบัติ 3 เซ็ท / วัน 3-5 วัน / สัปดาห์

 
บริหารต้นขาด้านหลัง


1. นอนคว่ำหน้าลงบนหลังมือทั้งสองข้าง โดยมีเบาะรองพื้น

2. กดสะโพกให้แนบติดพื้น ขณะเดียวกันก็เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องเอาไว้

3. ค่อยๆ งอขาขวาเข้าหาก้นอย่างช้าๆ โดยต้นขาด้านหน้ายังแนบติดกับพื้นเบาะ

4. นิ่งสักครู่ก่อนที่จะลดเท้าลงเหมือนเดิม จะรู้สึกได้กับกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังในขณะปลายเท้างอเข้าใกล้กัน

5. สลับขาข้างซ้ายในทำนองเดียวกัน ทำเช่นนี้ให้ได้ข้างละ 10-15 ครั้ง (1 เซ็ท)

6. ควรปฏิบัติ 3 เซ็ท/วัน 3-5 วัน /สัปดาห์

ข้อแนะนำ : ควรควบคุมจังหวะในการบริหารให้สม่ำเสมอ ร่างกายส่วนบนต้องนิ่ง ยกขาขึ้นในแนวตรง ไม่เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง กดสะโพกแนบพื้นอยู่เสมอ
 
บริหารต้นขาด้านนอก

1. นอน ตะแคงเอียงข้างซ้าย (หรือขวาก็ได้ตามแต่จะถนัด) ลงบนเบาะ ร่างกายอยู่ในแนวเส้นตรง หนุนศีรษะด้วยฝ่ามือด้านซ้าย โดยต้นแขนวางราบยันพื้นไว้

2. มือขวาวางอยู่บนพื้นด้านหน้า เพื่อช่วยพยุงน้ำหนักตัว ขาซ้ายงอเล็กน้อย

3. สะโพกตรง เกร็งกระชับกล้ามเนื้อหน้าท้องไว้

4. ค่อยๆ ยกขาขวาขึ้นอย่างช้าๆ โดยไม่ต้องเกร็งหัวเข่า

5. เมื่อยกได้สูงสุดแล้วให้นิ่งไว้สักครู่ จากนั้นค่อยๆ ลดขาลง แล้วหยุดอยู่เหนือพื้นเล็กน้อย

6. จะรู้สึกได้ถึงความตึงของต้นขาด้านนอกขณะที่ยกขาขึ้น

7. สลับขาข้างซ้ายในทำนองเดียวกัน ทำเช่นนี้ให้ได้ข้างละ 10-15 ครั้ง (1 เซ็ท)

8. ควรปฏิบัติ 3 ชุด / วัน 3-5 วัน / สัปดาห์
 
บริหารต้นขาด้านใน

1. นอนตะแคงข้างซ้ายบนเบาะ หนุนศีรษะด้วยฝ่ามือด้านซ้าย โดยต้นแขนวางราบยันพื้นไว้

2. งอเข่าขวาชี้ตรงมาด้านหน้า ท่อนล่างทำมุมฉากกับต้นขา โดยวางเข่าขวาบนพื้น หรือยกพ้นพื้นเล็กน้อย

3. ขาซ้ายเหยียดตรง พยายามดึงกล้ามเนื้อจากเท้าขึ้นตามแนวของต้นขา


ที่มา : teenee.com

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

สุดยอดตัวช่วยผู้หญิงที่อยากเพรียว





คนที่กำลังลดความอ้วน หรืออยู่ในโปรแกรมลดน้ำหนักมักชอบพูดอยู่ตลอดเวลาว่า “รู้สึกหิว” ซึ่งจริง ๆ แล้ว “ความรู้สึกหิว” เกิดขึ้นจากการที่น้ำตาลในเลือดลดลง ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนกระตุ้นให้กระเพาะอาหารเกิดการเกร็งตัว และเกิดอาการหิว ปวดท้อง แสบท้องตามมา แต่บางคนก็รู้สึกสับสนระหว่าง “ความหิว” และ “ความอยากกิน” ซึ่งความรู้สึกอย่างหลัง คือ “ความอยาก” ไม่ใช่ความหิว


การอดใจและแยกแยะให้ออกระหว่างความหิวและความอยากกินเป็นหัวใจสำคัญ นอกเหนือจากนั้น การเลือกกินอาหารที่ทำให้อิ่มได้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็มีประโยชน์ต่อร่างกาย และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

อาหารจำพวกปลา
ปลา เป็นอาหารประเภทหนึ่งที่อุดมด้วยโปรตีน และยังมีคุณสมบัติเด่นในการบำบัดความหิวได้ดีกว่าไขมันและคาร์โบไฮเดรต ปลาส่วนใหญ่มีไขมันน้อยกว่าเนื้อวัว หมู เป็ด หรือไก่ และให้ปริมาณโปรตีนมากกว่าในการบริโภคแต่ละครั้ง ปลาสดที่นำมาอบหรือปิ้งให้คุณค่าทางอาหารและความอร่อยเป็นเลิศ แต่สำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัดไม่ควรมองข้ามอาหารจำพวกปลาแซลมอนและทูน่ากระป๋อง หรืออาจเลือกใช้เนื้อปลาแล่เป็นชิ้น กุ้ง และหอยแช่แข็ง ซึ่งสามารถนำมาประกอบอาหารได้สะดวกและรวดเร็ว

ผลไม้ตระกูลเบอรี่
อาหารที่มีไฟเบอร์สูงจะใช้เวลาในการย่อยนาน จึงทำให้เรารู้สึกอิ่มนานขึ้น ผลไม้สดทุกชนิดล้วนอุดมด้วยไฟเบอร์ และเบอรี่คือหนึ่งในผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงสุด ผลราสเบอรี่ในปริมาณ 1 ถ้วย มีไฟเบอร์ 8 กรัม สูงกว่าปริมาณไฟเบอร์ในผลแอปเปิลถึง 2 เท่า และให้แคลอรีเพียง 65 แคลอรี ปัจจุบันมีผลเบอรี่แบบแช่แข็ง ซึ่งสะดวกสำหรับนำมาปั่นลงในเครื่องดื่มประเภทโปรตีนเชค และสามารถนำเบอรี่แช่แข็งมาละลายน้ำแข็งเล็กน้อย แล้วนำมาใช้แต่งหน้าโยเกิร์ต หรือประดับบนเนยแข็งคอทเทจในเมนูอาหารหรือของว่างที่ให้ความรู้สึกอิ่ม

บร็อคโคลี

ผักเป็นรายการอาหารที่พบบ่อยในรายชื่อของอาหารที่ทำให้อิ่มท้อง เนื่องจากอุดมด้วยไปด้วยไฟเบอร์ที่ปราศจากแคลอรีและน้ำ ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกอิ่มและไม่อ้วน บร็อคโคลีเป็นผักที่จัดอยู่ในกลุ่มผักที่มีไฟเบอร์สูงสุด บร็อกโคลีที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ และผ่านการปรุงสุกแล้วจำนวน 1 ถ้วย จะให้ไฟเบอร์ที่ช่วยให้เราอิ่มได้ถึง 6 กรัม
ขณะที่ให้แคลอรีเพียง 50 แคลอรี
ถั่วดำ
ถั่วช่วยให้หายหิวได้อย่างดี เพราะมีไฟเบอร์สูง และยังอุดมด้วยโปรตีนในปริมาณที่เหมาะสม ถั่วดำปริมาณครึ่งถ้วยจะให้โปรตีนและไฟเบอร์ถึง 8 กรัม ขณะที่ถั่วขาว ถั่วปิ่นโต ซึ่งมีลายขาวแดง และถั่วแดงหลวงมีปริมาณโปรตีนและไฟเบอร์ตามมาติด ๆ เป็นอันดับ 2 เมื่อเราผสมถั่วในสลัด ซุป หรือพาสต้าก็จะทำให้อาหารมีรสชาติอร่อยขึ้น และแน่นอนว่าจะต้องพ่วงความรู้สึกอิ่มตามมาด้วย

ควินัว (Quinoa)

ธัญพืชสดเต็มเมล็ดส่วนใหญ่ให้ไฟเบอร์ในปริมาณมาก และมีน้ำมากกว่าอาหารที่ทำจากธัญพืชแห้ง เช่น ขนมปังแครกเกอร์ หรือเพรทเซล ดังนั้น แน่นอนว่าอาหารจำนวนนั้นจะให้ความรู้สึกอิ่มมากกว่า แต่ “ควินัว” เป็นพืชที่มีความโดดเด่นยิ่งกว่า เพราะมีโปรตีนสูงกว่าธัญพืชส่วนใหญ่ราว 8 กรัมต่อ 1 ถ้วย และยังปรุงสุกได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 15 นาที ต่างจากข้าวบาร์เลย์และข้าวกล้องที่ใช้เวลาในการปรุงนานกว่า เราสามารถนำควินัวมาปรุงเป็นอาหารในรูปของเครื่องเคียง หรือนำมาใช้เป็นส่วนผสมของสลัดซึ่งเป็นเมนูจานหลัก ร่วมด้วยผักหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ชนิดต่าง ๆ ร่วมกับไก่ย่างฉีกเป็นชิ้นย่อม

โยเกิร์ตกรีกไร้ไขมัน
ผลิตภัณฑ์นมไร้ไขมันส่วนใหญ่เป็นแหล่งอาหารโปรตีนสูง แต่โยเกิร์ตกรีกมีปริมาณโปรตีนสูงกว่าและเข้มข้นมากกว่าโยเกิร์ตกรีกไร้ไขมัน 1 กล่องให้โปรตีนสูงกว่าโยเกิร์ตธรรมดาเกือบ 2 เท่า หรือเท่ากับ 15 กรัม การรับประทานโยเกิร์ตกรีกไร้ไขมันเป็นอาหารว่าง นอกจากจะให้โปรตีนที่ทำให้คุณรู้สึกอิ่มท้องแล้ว เรายังไม่ต้องพึ่งพาของว่างอื่น ๆ ในยามเย็นอีกด้วย
ซุปผัก
เป็นอาหารที่ให้แคลอรีต่ำและมีน้ำในปริมาณมาก จึงให้ความรู้สึกอิ่มท้องอย่างเต็มที่ การเริ่มมื้ออาหารด้วยซุป 1 ถ้วยหรือ 1 ชามเล็กจะทำให้เรารับประทานอาหารจานหลักในปริมาณที่ลดลง นอกจากนี้ ซุปผักรสเลิศ 1 ถ้วยก็เป็นอาหารว่างง่ายๆ แต่ให้คุณค่าทางโภชนาการชั้นเลิศ ซึ่งจะช่วยสร้างสีสันและความรื่นรมย์ในยามบ่ายได้อย่างดีทีเดียว

ที่มา : teenee.com

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

6 ท่าบริหารเพื่อลดหน้าท้อง


การออกกำลังกายเฉพาะส่วนเพื่อเผาผลาญไขมันปรับเปลี่ยน เป็นกล้ามเนื้อให้ร่างกายฟิตและเฟิร์มยิ่งขึ้น จึงเป็นเรื่องสำคัญ ขอนำเสนอ ท่ากายบริหารเฉพาะบริหารหน้าท้อง ดังนี้ 

 ท่าที่ 1 กล้ามเนื้อท้องรวม 

ท่าเตรียมพร้อม นอนหงายกับพื้น มือประสานไว้ที่ท้ายทอย งอเข่าเล็กน้อย ยกศีรษะขึ้นในมุมประมาณ 40 องศากับพื้น โดยอาศัยแรงยกจากลำตัวบนและไหล่ทั้งสองข้าง โดยมือควรจะกางออกตึงไว้ แต่ไม่ใช่ห่อ และออกแรงดันศีรษะ เพราะจะทำให้เกิดอาการปวดคอ คอเคล็ดตามมาได้ง่าย
 ท่าที่ 2 กล้ามเนื้อท้องด้านบน 
นอน ราบกับพื้น ขายกตั้งฉาก ใช้ช่วงน่องไขว้กัน เพื่อเพิ่มความหนักเวลายกตัวขึ้น มือประสานกันที่ท้าทอย ยกศีรษะขึ้นโดยอาศัยแรงยกจากลำตัวบนและไหล่ทั้งสองข้าง โดยมือคอยประคองศีรษะเอาไว้
 ท่าที่ 3 กล้ามเนื้อท้องด้านข้าง 
นอน ราบกับพื้น โดยยกเข่าข้างซ้ายขึ้นและพับขาขวาแนวนอนขัดกัน มือประสานกันไว้ที่ท้ายทอย ยกศีรษะขึ้นโดยอาศัยแรงยกจากลำตัวบนและไหล่ทั้งสองข้าง โดยมือคอยประคองศีรษะเอาไว้ ซึ่งท่านี้จะเป็นการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องด้านซ้าย และทำท่าเดิม แต่ยกเข่าขวาขึ้นและพับขาซ้ายสลับข้างกันกับตอนแรก เพื่อบริหารกล้ามเนื้อด้านขวา
 ท่าที่ 4 กล้ามเนื้อท้องน้อย 
นอน ราบกับพื้น พับขาให้ปลอดภัยบรรจบกัน มือประสานกันรองไว้ที่ท้ายทอย ยกศีรษะขึ้นโดยอาศัยแรงยกจากลำตัวบนและไหล่ทั้ง 2 ข้าง โดยมือคอยประคองศีรษะเอาไว้
 ท่าที่ 5 กล้ามเนื้อท้องส่วนล่าง 
นอน ราบกับพื้น ขาเหยียดตรง มือสองข้างวางราบกับพื้น รองใต้สะโพกเพื่อรับน้ำหนักให้ส่วนหลัง เกร็งขาไว้และยกขึ้นตั้งฉาก ค้างไว้นับ 1-10 แล้วเหยียดกลับไปท่าเดิม
 ท่าที่ 6 กล้ามเนื้อท้องด้านบนและล่าง 
นอน ราบกับพื้น มือขวารองไว้ที่ท้ายทอยเพื่อพยุงศีรษะ มืออีกข้างเหยียดตรงตั้งฉากกับลำตัว ยกเข่าด้านขวาให้ตั้งขึ้น และยกขาซ้ายพาดคล้ายท่าไขว่ห้าง ใช้กำลังที่หัวไหล่ขวาและหลังยกตัวเฉียงขึ้น ให้ข้อศอกแทบจรดเข่าซ้าย ทำท่าเดิม แต่เปลี่ยนจากใช้มือขวารองและเข่าขวาตั้ง เป็นมือและเข่าซ้ายแทนเพื่อบริหารกล้ามเนื้อด้านตรงข้าม
แต่ละท่า ควรทำซ้ำท่าละ 20 ครั้ง หากเป็นท่าที่ต้องสลับข้าง ให้ทำข้างละ 20 ครั้ง ใช้เวลาในการทำประมาณครึ่งชั่วโมง นอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดหน้าท้องแล้ว ยังช่วยลดปัญหาอาการปวดหลัง ปวดตามตัวได้อีกด้วย

ที่มา : teenee.com

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

บริหารเพื่อบั้นท้ายสวย





ใคร ๆ ก็คงอยากจะมีบั้นท้ายที่สวยกระชับ และกลมกลึงเหมือนนางแบบที่ไม่ว่าจะใส่ชุดไหนก็สวยทั้งสิ้น เราจึงมีวิธีดูแลบั้นท้ายง่าย ๆ มาแนะนำให้สาว ๆ ทั้งหลาย ลองนำไปฝึกกันนะคะโดยเริ่มจากการยืนตัวตรงหันหน้าหากำแพง ใช้มือทั้งสองข้างดันกำแพงไว้ แล้วยกข้อเท้าขวาวางไว้บนเข่าซ้าย จากนั้นค่อย ๆ ย่อตัวลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมกับเกร็งหน้าท้องเพื่อเก็บสะโพก ค้างท่านี้ไว้ 10 วินาที ทำติดต่อกัน 15 ครั้ง แล้วสลับข้างฝึกทุกวัน สาว ๆ ก็จะมีบั้นท้ายที่สวยกระชับ กลมกลึง ใส่ทั้งกระโปรง และกางเกงได้สวยแล้วล่ะค่ะ 

ที่มา : WOMEN PLUS

0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ:

บ้างาน ทำคุณอ้วนได้




ไม่ว่า จะพยายามอยู่ให้ห่างจากถุงขนมหวานระหว่างเวลางาน แต่การนั่งหน้าคอมเป็นเวลานานก็สามารถทำให้คุณอ้วนโดยไม่รู้ตัว

จากรายงานของสถาบันครอบครัวและงาน ประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ราว 62% ของพนักงานบริษัทที่นั่งพิมพ์ ๆ เคาะ ๆ อยู่หน้าคอมพิวเตอร์มากกว่า 30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จะมีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน แต่แหม…ขนาดทำแต่งานจนมองข้ามหลายมื้อสำคัญ แล้วไหงน้ำหนักยังพุ่งขึ้นอยูเรื่อย ๆ งั้นเราลองมาสำรวจพฤติกรรมระหว่างวันทำงานก่อนดีกว่า

มื้อเช้าเจ้าปัญหา

ไหนจะรถติด บ้านไกล ไปจนถึงงานเข้าเช้าตรู่ ถือเป็น 108 เหตุผลที่ทำให้หลายคนเริ่มมื้อเช้าด้วยคาร์โบไฮเดรตชุดใหญ่ อย่างโดนัทหรือขนมปัง ซึ่งจะทำให้คุณน้ำหนักเกินมากกว่าการกินโปรตีนหรือไขมันในมื้อเช้า โดยผลการวิจัยจากวารสารทางการแพทย์อเมริกัน เผยว่า 65% ของผู้ที่กินไข่ในมื้อเช้า จะมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าบรรดาคนรักขนมปัง ขณะเดียวกัน 83% ของผู้คลั่งแป้งก็ยังมีโอกาสรอบเอวขยายเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ออกกำลังกายน้อยลง


หนุ่มสาวออฟฟิศหลายคนสัญญากับตัวเองว่าจะไปออกกำลังกายทุกวันหลังเลิกงาน แต่สุดท้ายคุณก็วุ่นวายกับงานกองโตจนร่างกายเต็มไปด้วยไขมันสะสม โดยมีเหตุผลกิ๊งก๊องมารองรับว่าไม่มีเวลา ซึ่งทริคง่าย ๆ ที่จะทำให้หุ่นเพรียวลมแม้งานจะหนัก ก็เพียงแค่ปรับเวลาตื่นนอนแล้วหันมาออกกำลังกายในตอนเช้า งานนี้ ได้ทั้งอากาศดี ๆ แถมไปทำงานไม่สายอีกด้วย

นั่งทั้งวัน

สาเหตุหนึ่งที่สาวออฟฟิศมักมีพุงยื่นล้ำหน้า ก็เป็นเพราะพวกเธอไม่ค่อยมีกิจกรรมอื่นใดนอกเหนือจากนั่งพิมพ์งาน ๆๆ และงานอยู่หน้าจอคอม ซึ่งการนั่งเป็นเวลานาน ๆ ย่อมทำให้ร่างกายขยับเขยื้อนน้อยลง ระบบเผาผลาญจึงมีแต่สนิมเกาะ จนในที่สุดก้นและหน้าท้องที่แหมะอยู่แต่บนเก้าอี้ก็จะทำหุ่นคุณต้องเสียทรง

วิธีแก้ปัญหานั่งเยอะเกินไป สามารถทำได้โดยลุกขึ้นเดินรอบออฟฟิศสัก 2 นาทีในทุก ๆ ชั่วโมง หรือจะแกล้งเนียนเดินไปคุยไประหว่างรับสายโทรศัพท์มือถือก็ได้ ไม่ว่ากัน



ที่มา : TeeNee.com

0 ความคิดเห็น
 
Health 4 Women © 2012 | Designed by Canvas Art, in collaboration with Business Listings , Radio stations and Corporate Office Headquarters